Skip to main content
search
GLINK TECHNICIANบทความทั้งหมด

5 สายสัญญาณ ที่ช่างเทพต้องรู้

By 28/04/2025No Comments1 min read
สายสัญญาณ Fiber Optic Coaxial สายRG6 สายHDMI

สายสัญญาณ (Network Cable) อาจจะไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปสนใจนัก เพราะเป็นเรื่องไกลตัวและดูยุ่งยาก แต่หากเป็นช่างเทพแล้วล่ะก็ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องพื้นฐานและหลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

บทความนี้ GLINK Thailand จะมาสรุป (wrap up) 5 สายสัญญาณที่พบเจอบ่อยที่หน้างานและในชีวิตประจำวัน สายสัญญาณแต่ละอย่างคืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง ไปดูกันเลย

สรุปสั้น 5 สายสัญญาณ (Network Cable) ที่ช่างเทพต้องรู้

  1. สายสัญญาณ คือ ตัวกลางรับส่งข้อมูล
  2. มีสายที่ใช้กันบ่อย ต่างกันที่ลักษณะข้อมูลและความเร็วในการส่ง
  3. สาย Coaxial ใช้ในงานกล้อง CCTV เยอะ เช่น สาย RG6 สาย RG59
  4. สาย LAN รับส่งข้อมูลดิจิตอลทั้งอินเทอร์เน็ต ภาพและเสียง นิยมสุดๆ
  5. สาย Fiber Optic รับส่งข้อมูลดิจิตอลด้วยแสง ซึ่งมีความเร็วสูงมาก
  6. สาย HDMI ใช้เชื่อมต่อทีวี จอคอม เน้นงานแสดงผลภาพ
  7. สาย USB ใช้เชื่อมต่อได้หลากหลาย ถ่ายโอนข้อมูล ชาร์จไฟ และอุปกรณ์อื่นๆ
  8. GLINK มีจำหน่ายทุกแบบ ตอบโจทย์ทุกหน้างาน
สายสัญญาณ สาย LAN HDMI Fiber

สายสัญญาณ (Network Cable) คืออะไร

สายสัญญาณ (Network Cable) คือ ตัวกลางในการรับส่งข้อมูล (DATA) ระหว่างจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งหรือหลายจุด เช่น ภาพ เสียง อินเทอร์เน็ต เป็นต้น

ลักษณะการทำงาน คือ ตัวส่งสัญญาณจะแปลงภาพ เสียง หรืออินเทอร์เน็ตเป็นสัญญาณ แล้วส่งข้อมูลผ่านสายสัญญาณไปยังตัวรับสัญญาณ จากนั้นก็แปลงสัญญาณอีกครั้งเพื่อแสดงผล

สายสัญญาณก็จะมีอยู่หลายประเภท เพื่อตอบสนองงานที่แตกต่างกันไป และปัจจัยอื่นๆ เช่น ปริมาณข้อมูล ความเร็วในการส่งข้อมูล ระยะทาง เป็นต้น อาจแบ่งตามประเภทข้อมูล คือ แอนะล็อก และ ดิจิทัล

5 สายสัญญาณ (Network Cable) ที่ช่างเทพต้องรู้

สายสัญญาณที่ใช้ในงาน IT, เน็ตเวิร์ก และกล้องวงจรปิด มีอยู่ 5 แบบที่ใช้กันบ่อยๆ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1. สาย COAXIAL (สายโคแอกเชียล)
สาย Coaxial ใช้ในการรับส่งสัญญาณภาพและเสียงในระบบแอนะล็อกและดิจิทัล ยังพบในงานกล้องวงจรปิด CCTV เพราะมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แกนกลางสาย Coaxial เป็นตัวนำไฟฟ้า หุ้มด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อกันสัญญาณรบกวน ด้านนอกหุ้มด้วย Jacket ที่ทำจาก PVC เช่น สาย RG59 สาย RG 6 เป็นต้น
ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะหายไปจากตลาด เพราะถูกแทนที่ด้วยสายแลนและสายไฟเบอร์ ที่มีความเร็วมากกว่า และรับส่งข้อมูลในปริมาณที่มากกว่า

2. สาย LAN (Local Area Network)
สาย LAN ใช้รับส่งสัญญาณดิจิทัลทั้ง อินเทอร์เน็ต ภาพและเสียง พบได้ในงานวางระบบ IT, เน็ตเวิร์ก และกล้องวงจรปิด CCTV มีด้วยกันหลายประเภทขึ้นอยู่กับความเร็วที่เรียกว่า CAT (แคท) หรือ Category (แคทเตอกอรี) ที่นิยมใช้กันเยอะมากๆในปัจจุบันจะมี CAT 5E กับ CAT 6 และยังมีรุ่นที่แรงกว่านั้นแต่ราคายังสูงอยู่ คือ CAT 6A, CAT 7 และ CAT 8
สาย LAN ที่จำหน่ายมีทั้งแบบโรล 100 เมตร และ 305 เมตร กับแบบสำเร็จรูปที่เข้าหัวแลนพร้อมใช้งาน เรียกว่า Patch Cord (แพทช์ คอร์ด) นิยมใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน ถือเป็นสายสัญญาณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด

3. สาย FIBER Optic (สายไฟเบอร์)
สาย FIBER ใช้รับส่งสัญญาณดิจิทัลด้วยแสง มีความเร็วสูงมาก ทนทานต่อสัญญาณรบกวน สามารถส่งสัญญาณได้ในระยะทางไกล และมีปริมาณข้อมูลมากๆ ใช้ในงานเน็ตเวิร์กหรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร และศูนย์ข้อมูล หรือ Data Centers มีอยู่ 2 ประเภท คือ Single Mode (ส่งข้อมูลระยะเกิน 10 กม.) Multi Mode (ส่งข้อมูลระยะไม่เกิน 2 กม.)
ปัจจุบันสายไฟเบอร์ยังมีราคาสูงอยู่ แต่จะลดลงตามกลไกตลาดในอนาคต และจะถูกนำไปใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G รวมไปถึง IoT (Internet of Things) หรือ ใดๆในโลกล้วนอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

4. สาย HDMI (High Definition Multimedia Interface)
สาย HDMI เป็นสายสัญญาณดิจิตอลที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภาพและเสียงความละเอียดสูง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และเครื่องเล่นบลูเรย์ มีหลายเวอร์ชันแบ่งตามความละเอียดและรีเฟรชเรทที่ต่างกัน เช่น HDMI 1.4 รองรับ ความละเอียด 4K รีเฟรชเรท 30Hz, HDMI 2.0 รองรับ ความละเอียด 4K รีเฟรชเรท 60Hz, HDMI 2.1 รองรับ ความละเอียด 8K รีเฟรชเรท 120Hz
สาย HDMI กลายเป็นสายมาตรฐานของจอมอนิเตอร์ โทรทัศน์ และในอนาคตก็จะสามารถส่งสัญญาณได้ละเอียดและมีรีเฟรชเรทที่สูงมากขึ้น

5. สาย USB (Universal Serial Bus)
สาย USB เป็นสายสัญญาณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเรามากที่สุด ใช้ถ่ายโอนข้อมูล หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ เป็นต้น แบ่งประเภทสายตามความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล USB 2.0 ความเร็ว 480 Mbps, USB 3.0 ความเร็ว 5 Gbps, USB-C ความเร็ว 10 Gbps
สาย USB พัฒนามาจนถึงรุ่น USB-C และน่าจะเป็นมาตรฐานปกติในอนาคต ซึ่ง USB-C (Thunderbolt) สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 40 Gbps

สรุป

สายสัญญาณที่ใช้ในงาน IT, เน็ตเวิร์ก และกล้องวงจรปิด มีอยู่ 5 ประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นสาย COAXIAL, สาย LAN, สาย Fiber Optic, สาย HDMI และสาย USB ซึ่งจะมีหน้าที่และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป หากรู้จักและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมก็จะได้ทั้งประสิทธิภาพและคุ้มราคาที่จ่ายไปด้วย ที่สำคัญ GLINK Thailand มีจำหน่ายทุกแบบ ตอบโจทย์ทุกหน้างานแน่นอน
Close Menu